พิธีทางศาสนามหามงคล ๕ ศาสนา ภายใต้การจัดงานเฉลิมฉลองวาระครบรอบ ๑๐๐ ปี วันประสูติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
วันจันทร์ที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๖๖ เวลา ๑๔.๐๐ น. นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ผู้แทนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีทางศาสนามหามงคล ๕ ศาสนา ภายใต้การจัดงานเฉลิมฉลองวาระครบรอบ ๑๐๐ ปี วันประสูติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยมี ข้าราชการกระทรวงวัฒนธรรม ผู้แทนองค์กรการกุศลในพระอุปถัมภ์ฯ ผู้แทนองค์การศาสนา ๕ ศาสนา และประชาชน กว่า ๖๐๐ คน เข้าร่วมพิธี ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร
รมว.วธ.เปิดเผยว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงประกอบพระกรณียกิจนานัปการ ด้วยพระปณิธานอันแน่วแน่ที่จะทำอะไรให้เมืองไทย ทรงยึดมั่นในคุณค่าของมนุษย์ และศักยภาพของการพัฒนา จึงทรงงาน และทรงอุปถัมภ์กิจการทั้งปวงที่เกี่ยวข้องกับด้านการศึกษา ด้านวิทยาศาสตร์ประยุกต์ การแพทย์และการสาธารณสุข ด้านสังคมสงเคราะห์ ด้านสัมพันธไมตรี การสื่อสาร และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ด้านการศาสนาและศิลปวัฒนธรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนและพสกนิกรชาวไทย จากการประชุมสมัยสามัญขององค์การยูเนสโกครั้งที่ ๔๑ ซึ่งจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่องค์การยูเนสโก กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ ๙ - ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ได้มีมติรับรองการร่วมเฉลิมฉลองบุคคลสำคัญและเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของโลกในปี ๒๕๖๕ – ๒๕๖๖ จำนวนทั้งสิ้น ๖๗ รายการ ในจำนวนดังกล่าวเป็นรายพระนามของประเทศไทย ได้แก่ การเฉลิมฉลองวาระครบรอบ ๑๐๐ ปีวันประสูติ ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (100th anniversary of the birth of Her Royal Highness Princess Galyani Vadhana Krom Luang Naradhiwas Rajanagarindra) ด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม ซึ่งจะครบรอบในวันที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ งานเฉลิมฉลองในครั้งนี้จึงมีความสำคัญในระดับประเทศและในระดับนานาชาติ
นายอิทธิพล คุณปลื้ม กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลโดยกระทรวงวัฒนธรรม กรมการศาสนา พร้อมทั้งผู้แทนองค์การศาสนา ๕ ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ตาสนาพราหมณ์ ฮินดู และศาสนาชิกข์ ล้วนมีความปลาบปลื้มปีติยินดีเป็นล้นพ้นในโอกาสเฉลิมฉลองวาระครบรอบ ๑๐๐ ปี วันประสูติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ สำนึกในพระกรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ จากพระกรณียกิจนานัปการที่ได้ทรงบำเพ็ญด้วยพระวิริยะ อุตสาหะ ตรากตรำพระวรกาย เพื่อความร่มเย็นป็นสุขของพสกนิกรขาวไทย ด้วยน้ำพระทัยที่เปี่ยมด้วยพระเมตตา ทรงเป็นแบบอย่างแก่พสกนิกรในการปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนทางศาสนา เป็นที่ซาบซึ้งและประทับอยู่ในดวงใจของพสกนิกรไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด พระองค์ทรงสนพระราชหฤทัยในการศาสนาอย่างยิ่ง ทั้งทรงส่งเสริมการศึกษา ซึ่งทรงส่งเสริมการเข้าถึงการศึกษาสำหรับคนยากจนคนชายขอบและเด็กที่มีความต้องการพิเศษ ศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัย โรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาบนภูเขาและเกาะที่ห่างไกล ตลอดจนในพื้นที่ชายแตนและชุมชนแออัด ทรงรับองค์กรการกุศลไว้ในพระอุปถัมภ์หลายองค์กร และทรงเป็นอาจารย์สอนภาษาฝรั่งเศสในหลายมหาวิทยาลัย
ทรงสงเคราะห์ด้านการเพทย์ การสาธารณสุข ทรงรับกองทุน มูลนิธิ และสมาคมทางการศึกษาศิลปะวัฒนธรรมดนตรี การสังคมสงเคราะห์ในพระอุปถัมภ์เป็นจำนวนมาก ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างใหญ่หลวง ทรงพระนิพนธ์และรวบรวมเรียบเรียงหนังสืออันทรงคุณค่าด้านประวัติศาสตร์และด้านอื่น ๆ ไว้จำนวนมาก และด้านวัฒนธรรมทรงรับสั่งได้หลายภาษา ทำให้ทรงมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลและชุมชนที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทรงเป็นนักอ่านนักเขียน โดยได้แปลและเรียบเรียงหนังสือในหลากหลายประเภท ทั้งภาษาไทยและภาษาฝรั่งเศส
นอกจากนี้ ยังทรงให้การสนับสนุนวงดนตรีและการแสดงของไทยในท้องถิ่น เช่น คณะหุ่นกระบอกโจหลุยส์ ทรงจัดตั้งกองทุนเพื่อการส่งเสริมดนตรีคลาสสิก ให้การสนับสนุนนักดนตรีไทยในการศึกษาต่อ และส่งเสริมการแข่งขันและคอนเสิร์ตทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ สนับสนุนวงดุริยางค์ชิมโฟนีกรุงเทพ และวงซิมโฟนีออร์เคสตราแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้อุปถัมภ์ของโรงละครโอเปร่ากรุงเทพ รวมทั้ง สถาบันดนตรีกัลยานิวัฒนา พระเกียรติคุณดังกล่าว เป็นที่ประจักษ์เด่นชัดแก่ชาวไทยและขาวโลก ทรงได้รับการเทิดทูนพระเกียรติจากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(UNESCO)
เนื่องในโอกาสวาระครบรอบ ๑๐๐ ปี วันประสูติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ รัฐบาล ขอเชิญชวน พสกนิกรชาวไทย ผู้แทนองค์การศาสนา ๕ ศาสนา ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ที่ทรงมีต่อปวงพสกนิกรอย่างอเนกอนันต์ อันเป็นคุณงามความดีจะสถิตอยู่ในดวงใจของปวงชนชาวไทยตราบชั่วกาลนาน
No comments