“ศุกรีย์” พอแล้วเตรียมทิ้งเก้าอี้นายกเพาะกายปีหน้า

 

“ศุกรีย์ สุภาวรีกุล” ประกาศ ปีหน้า เตรียมทิ้งเก้าอี้ลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาเพาะกายฯ หลังทำงานครบ 8 ปี 2 สมัย เพื่อเปิดให้คนใหม่ที่มีความสามารถมาทำหน้าที่บริหารและพัฒนาเพาะกายแทน พร้อมปรับศึก “โรดทูมิสเตอร์ไทยแลนด์ 2024” เหลือ 4 สนาม ขณะที่ทีมชาติ จัดคัดตัวลุย 3 ศึกอาเซียน, เอเชีย และชิงแชมป์โลก ในวันที่ 20 พ.ค.นี้

     

นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เป็นประธานในการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2565 เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่ ห้องเอเวอร์กรีน ชั้น 5 โรงแรมอเล็กซานเดอร์  ถ.รามคำแหง เขตบางกะปิ โดยมีคณะกรรมการบริหารและสมาชิกสโมสรเข้าร่วมประชุมครบองค์ประชุมตามที่กำหนด 

     

ที่ประชุมได้มีการแจ้งถึงผลการทำงานในปีที่ผ่านมา รวมทั้งมีการหารือ เรื่องการแข่งขันเพาะกายรายการต่างๆ ในปี 2566 และ 2567 ได้แก่รายการ  “โรดทูมิสเตอร์ไทยแลนด์ 2024” เพื่อจะคัดนักกีฬา อันดับ 1-5 เป็นตัวแทนเข้าร่วมในการแข่งขันกีฬาเพาะกายชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2567 ครั้งที่ 44 หรือ มิสเตอร์ไทยแลนด์ 2024 ที่ปีนี้ จะลดสนามแข่งขันจากเดิม 5 สนาม เหลือ 4 สนาม ได้แก่ สนามแรก “ไทยแลนด์ พายัพ คลาสสิค แชมเปี้ยนชิพ” วันที่ 8-9 ก.ค.ที่เซ็นทรัล ลำปาง ต่อด้วยสนาม 2 “ไทยแลนด์ มัสเซิล แอนด์ฟิสิค แชมเปี้ยนขิพ” วันที่ 16-17 ก.ย. ที่เซ็นทรัล พระราม 2 สนาม 3  “ไทยแลนด์ เซาท์เทิร์น บอดี้บิวดิ้ง แชมเปี้ยนขิพ” วันที่ 2-3 ธ.ค. ที่เซ็นทรัล สุราษฎร์ธานี และ สนามสุดท้าย “ไทยแลนด์ อีสาน คลาสสิค บอดี้บิวดิ้ง แอนด์ ฟิสิค สปอร์ต แชมเปี้ยนชิพ” วันที่ 11-12 ก.พ.2567 ที่เซ็นทรัล นครราชสีมา โดยได้มีการหารือเพื่อกำหนดคุณสมบัติของนักกีฬาที่จะเข้าแข่งขันเพื่อให้เหมาะสม โดยต้องแข่งในนามสมาชิกสโมสรของทางสมาคมฯ 

   

นอกจากนี้ ยังมีการหารือเรื่องการแก้ไขระเบียบกติกาการแข่งขันเพาะกาย ในกีฬาแห่งชาติ กีฬาเยาวชนแห่งชาติ และกีฬาอาวุโสแห่งชาติ โดยได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อหารือเรื่องปรับข้อบังคับให้เหมาะสมกับการแข่งขันและระดับอายุ

      

นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “ผมทำหน้าที่ในฐานะนายกสมาคมฯ มาเป็นเวลา 7 ปี ในปีหน้า ปี 2567 จะครบ 8 ปี 2 วาระ แล้วเพราะฉะนั้น เมื่อจะถึงครบกำหนดเลือกตั้งนายกสมาคมฯ คนใหม่ ในเดือนเม.ย.ปีหน้า เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานและตามหลักธรรมาภิบาล ผมได้หารือกับที่ประชุมว่าจะขอลาออก ก่อนที่จะถึงกำหนดการเลือกตั้งนายกคนใหม่ ในเดือนเมซน.ปีหน้า ถึงแม้ขัอกำหนดของสมาคมฯ ไม่ได้กำหนดไว้ว่า จะเป็นนายกกี่สมัย แต่ผมทำงานเป็นนายกฯ มาเกือบ 2 สมัย ผมคิดว่าน่าจะให้คนใหม่มาดำเนินงานบริหารสมาคมฯ”

   

“ในปี 2567 เป็นปีที่สมาคมกีฬาเพาะกายฯ ครบ 71 ปี ผมอยู่วงการเพาะกายมานานกว่า 30 กว่าปี ทำหน้าที่นายกสมาคมฯ มา 2 สมัย คิดว่าน่าจะให้คนใหม่มาทำหน้าที่เป็นนายกสมาคมฯ คนใหม่ จะดีกว่า ถึงแม้ผมจะมีตำแหน่งในสหพันธ์เพาะกายนานาชาติและสหพันธ์เพาะกายแห่งเอเชีย ก็ตาม แต่การทำงานมา 8 ปี น่าจะพอแล้ว ผมคงไม่ขอเป็นนายกสมาคมฯ อีกสมัย อาจจะเป็นที่ปรึกษา ไม่ได้ทิ้งวงการเพาะกาย อยากให้มีคนใหม่มาบริหารงานเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดความคิดใหม่ๆ ในการบริหารงาน การมีคนใหม่ทำให้วงการกีฬาเติบโต วงการเพาะกายมีคนที่เหมาะสมและมีความสามารถอีกเยอะที่จะช่วยพัฒนาสมาคมฯ ต่อยอดให้สมาคมฯ เพาะกายประสบความสำเร็จ”

  

“สำหรับวันที่ 20 พ.ค.ที่เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ในงานการจัดกิจกรรมของมูลนิธิซีเกมส์ ทางสมาคมฯ จะให้นักกีฬาทีมชาติ 70 คน มาแข่งขันเพื่อคัดทีมชาติ ส่งแข่ง 3 รายการเริ่มจากชิงชนะเลิศแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ วันที่ 8-12 มิ.ย.ที่เมืองบาตั้ม ประเทศอินโดนีเซีย ต่อด้วยชิงแชมป์เอเชีย วันที่ 1-7 ก.ย.ที่เนปาล และชิงแชมป์โลก วันที่ 6-12 พ.ย.ที่เกาหลีใต้”

  

“ส่วนการแข่งขันในประเทศ ในการแข่งขันรายการ “โรดทูมิสเตอร์ไทยแลนด์ 2024” ที่ลดเหลือ 4 สนาม ทำให้การแข่งขันเข้มข้นขึ้น โดยจะมีการกำหนดคุณสมบัติของนักกีฬาที่เข้าแข่งขัน รวมทั้งแก้ไข ปรับกฏเกณฑ์การเข้าแข่งขันเพาะกาย ในกีฬาแห่งชาติ กีฬาเยาวชนแห่งชาติ และกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ทั้ง 3 รายการ”