เริ่มแล้วงานแสดงสินค้าสุดยิ่งใหญ่แห่งปี Think Business, Think Hong Kong ในกรุงเทพฯ นำเสนอฮ่องกงในฐานะเป้าหมายของธุรกิจระดับพรีเมียมและเป็นแพลทฟอร์มในการต่อยอดทางธุรกิจไทย-ฮ่องกง
13 กรกฎาคม 2566 (กรุงเทพฯ ประเทศไทย) – องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) ได้จัดงานแสดงสินค้า Think Business, Think Hong Kong (TBTHK) ซึ่งเป็นหนึ่งในงานหลักขององค์การฯ รุกเผยศักยภาพของฮ่องกง ในการเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมที่แข็งแกร่ง และเปิดโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการจากทั้งไทยและทั่วโลก
โดยงานจะจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 13-14 กรกฎาคม 2566 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ โดยงานนี้ได้รวบรวมผู้ประกอบการธุรกิจฮ่องกงและไทย เพื่อค้นหาโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน ผ่านกิจกรรมในงานได้แก่ งานแสดงสินค้า งานเสวนา และกิจกรรมต่อยอดสร้างเครือข่าย
ในฐานะที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจชั้นนำในเอเชีย กรุงเทพฯและฮ่องกงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมายาวนาน ซึ่งเป็นผลจากบทบาทที่สำคัญของไทยในอาเซียนและความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ที่เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกันนี้ นอกจากนี้ ฮ่องกงยังเป็นศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศที่โดดเด่นในภูมิภาค ที่มากไปด้วย ประสบการณ์ และเครือข่าย และยิ่งไปกว่านั้น ฮ่องกงยังมีบทบาทสำคัญในการเป็นเวทีเชื่อมและส่งเสริมความร่วมมือแบบไตรภาคีระหว่างธุรกิจจากประเทศไทย จีนและฮ่องกง และส่งเสริมความร่วมมือในการค้าสินค้าและบริการ การระดมเงินทุน การค้า และการเปิดตลาดไปสู่สากล
แคมเปญ TBTHK ในกรุงเทพฯ ได้มุ่งเน้นในการแสดงจุดแข็งของฮ่องกง ด้วยโครงการพัฒนาล่าสุดของเมือง โดยเป็นการแสดงให้เห็นถึงบทบาทของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางทางธุรกิจระหว่างประเทศชั้นนำ ที่ช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจไทยขยายตัวในอาเซียน จีน และประเทศอื่น ๆ
Mr. Algernon Yau รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และการพัฒนาเศรษฐกิจฮ่องกง พร้อมด้วย Dr. Peter K N Lam ประธานองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง ได้กล่าวเปิดงานในวันแรก และได้รับเกียรติจาก ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมกล่าวปาฐกถาพิเศษ
งานครั้งนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยมองหาโอกาสทางธุรกิจจากผลิตภัณฑ์และบริการไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ ที่มีคุณภาพ และเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์จากผู้จัดแสดงสินค้าจากฮ่องกงจำนวน 120 ราย ที่งาน TBTHK Trade Expo โดยงานแสดงสินค้าครั้งนี้ ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการจากหลากหลายภาคส่วนในด้านแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี บ้านและที่อยู่อาศัย ของเล่นและแกดเจ็ต และโซลูชั่นเมืองอัจฉริยะ ซึ่งมากกว่า 80% กำลังจะเปิดตัวในตลาดประเทศไทย
บริษัทชั้นนำจากฮ่องกงที่ได้รับการคัดเลือกมาจัดแสดงภายในงานนี้ ได้มีการนำผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ยั่งยืนและล้ำสมัยมาเสนอ เช่น OmniFoods ซึ่งเป็นผู้ขับเคลื่อนแนวคิด plant based รายแรกที่ให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและมุ่งไปสู่ความยั่งยืน และ Farm66 ผู้บุกเบิกเทคโนโลยีการเกษตรในการทำฟาร์มในร่ม โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์เชิงนิเวศคุณภาพสูงในโรงงานเกษตรกรรมที่ปรับขนาดได้
ในงานยังประกอบไปด้วยผู้ให้บริการโซลูชันเมืองอัจฉริยะ 7 ราย โดย Smart City Consortium รวมถึงบริษัทฮ่องกง 13 แห่ง ที่นำโดย สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าฮ่องกง ได้มีการจัดแสดงนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ
นอกจากนี้ในงานแสดงสินค้ายังมีแบรนด์ไลฟ์สไตล์ชื่อดังอื่น ๆ จากฮ่องกง เช่น
● Chow Tai Fook แบรนด์เครื่องประดับชั้นนำที่มีเครือข่ายค้าปลีกที่กว้างขวางในเอเชีย สหรัฐอเมริกา และแคนาดา
● Memorigin แบรนด์นาฬิการุ่น Tourbillon (ตูร์บิยง) ที่มีชื่อเสียงของฮ่องกง
● Camel แบรนด์สินค้าครัวเรือนที่ผลิตกระติกน้ำและแก้วน้ำสุญญากาศ ที่หุ้มฉนวนป้องกันหยดน้ำเกาะรอบแก้วที่สามารถกำหนดขนาดเองได้ตั้งแต่ยุค 1940
● DPM แบรนด์ชุดเครื่องนอนเพื่อสุขภาพการนอนที่ดีขึ้นโดยใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีจากการวิจัยและพัฒนากว่า 20 ปี
● B.Duck หนึ่งในตัวละครที่เป็นทรัพสินทางปัญญา (IP) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน
นอกจากนั้น ภายในงาน ยังประกอบไปด้วยกิจกรรมงานเสวนา Trade Talks ซึ่งได้ครอบคลุมใน 4 หัวข้อเด่นด้านการค้าที่อยู่ในเทรนด์ในขณะนี้ ได้แก่ นวัตกรรมเทคโนโลยีของการค้าปลีก การเพิ่มโอกาสทางธุรกิจด้วยการได้รับใบอนุญาต การปรับโฉมอีคอมเมิร์ซและการขนส่งข้ามพรมแดน ตลอดจนการพัฒนาอย่างยั่งยืนและ ESG โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่มค้าปลีก สมาคม และบริษัทด้านนวัตกรรมที่มีชื่อเสียง เช่น Mr. Anson Bailey หัวหน้าฝ่ายผู้บริโภคและการค้าปลีก ASPAC ของ KPMG Mr. Vincent Cheung ผู้อำนวยการบริหารและผู้จัดการทั่วไป (ใบอนุญาต) บริษัท B.Duck Semk Holdings International Limited Mr. Anavil Paodit ผู้อำนวยการ Medialink Brand Management PTE. LTD Mr. David Yeung ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Green Monday Group และ Mr. Ir Andrew Young รองผู้อำนวยการ (นวัตกรรม) ของ Sino Group และผู้เชี่ยวชาญในวงการอีกมากมาย ที่จะแบ่งปันประสบการณ์ระดับมืออาชีพและข้อมูลเชิงลึกด้านการตลาดกับผู้เข้าร่วมในงานทั้งสองวัน
ในวันแรกของงาน มีการจัดงาน Hong Kong Night Reception ซึ่งเป็นงานสำหรับผู้ที่ได้รับเชิญเท่านั้น เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้นำธุรกิจทั้งจากไทย อาเซียน และฮ่องกงได้สร้างเครือข่ายและค้นหาโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน
นอกจากนี้ ในงานยังมีช่วงแจกของรางวัลพิเศษในวันที่ 14 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่สองของการจัดงาน โดยมีรางวัลมากมาย เช่น นาฬิกา Tourbillion สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และอื่น ๆ โดยหนึ่งในไฮไลท์ของรางวัลได้แก่ ตั๋วเครื่องบินไปกลับชั้นประหยัดสูงสุด 100 ใบ จากกรุงเทพไปยังฮ่องกงซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย แคมเปญ "World of Winners" Ticket Offers จากสนามบินนานาชาติฮ่องกง โดยสงวนสิทธิ์โดย HKTDC และบริษัทสายการบินสำหรับของรางวัลนี้
ท้ายสุด อีกหนึ่งกิจกรรมที่ผู้เข้าร่วมงานไม่ควรพลาด คือบูธถ่ายภาพที่มีอาคารอันเป็นเอกลักษณ์ของฮ่องกงเป็นฉากหลัง ทำให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสกับความเป็นฮ่องกงอย่างแท้จริง
เกี่ยวกับ HKTDC
องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) ก่อตั้งขึ้นในปี 2509 เพื่อส่งเสริม ช่วยเหลือ และขยายโอกาสทางธุรกิจของฮ่องกง โดย HKTDC มีสำนักงาน 50 แห่งทั่วโลก และ มี 13 แห่งตั้งอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ เพื่อผลักดันให้ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางการลงทุนและธุรกิจระดับโลก
ที่ผ่านมา HKTDC ได้จัดงานระดับนานาชาติ ทั้งนิทรรศการ การประชุมสัมมนา และพันธกิจทางธุรกิจ เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับบริษัทต่าง ๆ โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในตลาดจีนแผ่นดินใหญ่และต่างประเทศ นอกจากนี้ HKTDC ยังรวบรวมข้อมูลวิเคราะห์ตลาดเชิงลึกและข้อมูลล่าสุดของผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ ผ่านรายงานการวิจัย และ ข่าวดิจิทัลต่าง ๆ
No comments