Header Ads

เครือข่ายเยาวชนภาคใต้ ระดมสมอง ร่วมปกป้องเด็กและเยาวชนจากภัยบุหรี่ไฟฟ้า จี้รัฐเอาจริง กวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้า ควบคุมการขายออนไลน์ แบนสิ้นเชิงเหมือนยาเสพติด

เครือข่ายเยาวชนภาคใต้ ระดมสมอง ร่วมปกป้องเด็กและเยาวชนจากภัยบุหรี่ไฟฟ้า จี้รัฐเอาจริง กวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้า ควบคุมการขายออนไลน์ แบนสิ้นเชิงเหมือนยาเสพติด ไม่ให้เด็กตกเป็นเหยื่อที่ถูกแสวงหาผลประโยชน์จากปัญหาการไม่บังคับใช้กฎหมาย วอนศิลปิน ดารา คนมีชื่อเสียง งดสื่อสารภาพสูบบุหรี่ไฟฟ้าต่อสาธารณะ ​

เมื่อเร็วๆนี้ ที่โรงแรมเซาท์เทอร์นแอร์พอร์ต อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน (ขสย.) ร่วมกับ กลุ่มไม้ขีดไฟ มูลนิธิเด็ก เยาวชนและครอบครัว ได้ร่วมกันจัดเวทีระดมความคิดเห็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปกป้องเด็กและเยาวชนจากภัยบุหรี่ไฟฟ้า (พื้นที่ภาคใต้) ภายใต้โครงการปกป้องเด็กและเยาวชนจากภัยบุหรี่ไฟฟ้า ที่ดำเนินการพร้อมกัน 12 พื้นที่ทั่วประเทศ สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในงานวันนี้มีกลุ่มเด็ก เยาวชน บุคลากรทางการศึกษา หน่วยงานด้านสาธารณสุข บ้านพักเด็กและครอบครัว ตำรวจ ผู้นำท้องถิ่น อสม. และภาคประชาสังคม ในพื้นที่ภาคใต้เข้าร่วมกว่า 60 คน ในเวทีมีการสรุปข้อค้นพบจากการเก็บข้อมูลสถานการณ์บุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่ การแลกเปลี่ยนบุหรี่ไฟฟ้าความน่ารักที่แฝงด้วยภัยร้าย กับมาตรการทางกฎหมายที่ยังลอยนวล และกลลวงบุหรี่ไฟฟ้ากับความจริงที่ต้องรู้ รวมถึงการระดมความคิดเพื่อจัดทำมาตรการและแนวทางการป้องกัน แก้ไข และการรับมือภัยจากบุหรี่ไฟฟ้าที่ส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชน ตลอดจนได้เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้ออกแบบกิจกรรมที่สอดคล้องกับบริบทและสภาพปัญหาของพื้นที่ฯ นำไปสู่การทำงานเพื่อสร้างสังคมที่ปกป้องเด็กและเยาวชนจากภัยบุหรี่ไฟฟ้า

นายอับดุลปาตะ ยูโซะ ผู้ประสานงานเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน (ขสย.) ภาคใต้ตอนล่าง กล่าวว่าจากผลสำรวจสถานการณ์การรับรู้และความเห็นประเด็นบุหรี่ไฟฟ้ากับเด็กและเยาวชน ในพื้นที่ภาคใต้ ในกลุ่มตัวอย่างจำนวน 300 คน พบว่า มีเด็กและเยาวชนรู้จักบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 93.12% เคยสูบบุหรี่ไฟฟ้าร้อยละ 44.93% สำหรับการเข้าถึงแหล่งซื้อ เยาวชนรู้จักแหล่งซื้อในชุมชนจำนวน 57.60% พร้อมกันนี้ยังพบว่าปัจจุบันเด็กและเยาวชนสามารถหาซื้อได้ง่ายทั้งจากทางช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ รวมถึงการซื้อจากร้านค้าในชุมชน และกลุ่มเพื่อนด้วยกัน   ในขณะที่เยาวชนยังพบเห็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ บุคคลที่มีชื่อเสียง คนดังและอินฟลูเอนเซอร์จำนวนไม่น้อย ใช้บุหรี่ไฟฟ้า และไม่มีการดำเนินการใดๆกับผู้ที่ครอบครอง  จึงสร้างความสับสนว่าสิ่งที่ผิดกฎหมาย โทษหนักแต่ทำไมยังเกลื่อนเมือง

“จากเวทีฯ เรามีจุดยืนและข้อเสนอสำคัญต่อกรณีบุหรี่ไฟฟ้า 3 ประการ ดังต่อไปนี้ คือ 1.สังคมไทยต้องไม่ทำให้เด็กและเยาวชนตกเป็นเหยื่อของบุหรี่ไฟฟ้า ไม่แสวงหาประโยชน์กับเด็กและเยาวชนจากปัญหาการไม่บังคับใช้กฎหมาย ทั้งนี้รัฐควรจัดให้มีพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กและเยาวชนที่เริ่มเห็นปัญหา  สมัครใจลดละเลิก โดยไม่ตีตราด้อยค่า ตลอดจนเร่งจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตและการพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนอย่างเต็มที่ 2.รัฐต้องบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่อย่างเข้มงวดและจริงจัง อาทิ ควบคุมการนำเข้าและการครอบครอง ปราบปรามและกวาดล้างจุดจำหน่าย ควบคุมการขายออนไลน์ เป็นต้น รวมถึงการออกกฎหมายแบนบุหรี่ไฟฟ้า ประกาศให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นยาเสพติดให้โทษ และ 3.ทุกภาคส่วนต้องให้ความสำคัญกับการปกป้องเด็กและเยาวชนจากภัยบุหรี่ไฟฟ้า ตามบทบาทภารกิจของตนเอง ตั้งแต่ระดับครอบครัว สถานศึกษา ชุมชน สังคม ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ประเด็นที่มีการพูดคุยอย่างกว้างขวางและเห็นตรงกันว่า เครือข่ายขอเรียกร้องให้คนดัง ศิลปิน ดารา และอินฟลูเอนเซอร์ ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของเด็กและเยาวชน หยุดใช้บุหรี่ไฟฟ้าโดยเฉพาะการกระทำผ่านสื่อสาธารณะ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่คนรุ่นใหม่อีกด้วย” ผู้ประสานงาน ขสย. ภาคใต้ตอนล่างกล่าว 



No comments

Theme images by sololos. Powered by Blogger.